เป็นรถยุค 50 (1951-1956 ) จริงๆแล้ว มี 3 รุ่นย่อย คือ R67 R67/2 R67/3
ข้อดี คือ สวยงาม ดูคลาสสิค เป็นสไตล์ หน้ากระบอกหลังสไลด์ เพลาเปลือย ซึ่งเป็น
ที่หมายปองของหลายๆคนอย่างที่ผมกล่าวไปแล้วข้างต้น ถ้าพ่วงไซค์คาร์ด้วยแล้วจะ
ยิ่งสวยงามมาก เป็นรถที่ถือกำเนิดหลังยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ยังคงรักษารูปแบบของ
ความแข็งแกร่ง อึดและทนทาน ตามสไตล์ ของBMW ไว้โดยคาดว่าจะพัฒนามาจาก
R51,R61 ,R66 และR71 ซึ่งเป็นรถยุคระหว่างสงคราม เรื่องของสมรรถนะเครื่องก็เป็น
เครื่อง 6 แรง มี 28 แรงม้า (ยกเว้นรุ่น R67ธรรมดาจะมีแรงม้า=26แรงม้า) อัตราทด=
6.5:1 (ยกเว้นรุ่น R67ธรรมดาจะ=5.6:1) ระบบเกียร์-ส่งกำลัง จะเป็นแบบที่ช่างเค้า
เรียกกันว่า เกียร์ตรง ซึ่งจะส่งกำลังได้เร็วไวและมีกำลัง โดยมาใช้ประกอบกับล้อหน้า
และหลังเป็นขนาด19” บวกกับเป็นรถที่มีศูนย์ถ่วงต่ำทำให้การขับขี่และคอนโทรลง่ายขึ้น
ซึ่งจะไปลบล้างกับข้อเสียบางอย่างลงได้ 70
ข้อเสีย หลักๆคือ ระบบกันสะเทือน เนื่องด้วยยังเป็นระบบเก่า (ตามยุค) คือยังเป็นแบบ
หน้ากระบอก หลังสไลด์ ซึ่งความนุ่มนวล การคอนโทรลจะค่อนข้างเหนื่อยไม่ว่าจะเป็น
ในรอบความเร็วต่ำ และโดยเฉพาะในช่วงความเร็วสูงจะทำให้ผู้ขับขี่เหนื่อ ยและเครียด
มากกว่า ยิ่งในกรณีขี่ทางไกล ๆ
รุ่น R70
ปี1973 นับ ได้ว่าเป็นครั้งแรกที่รูปทรงของตัวรถที่ใช้ในการแข่งขันถูกนำมาใช้ใน
รถมอเตอร์ไซค์ที่ผลิตออกจำหน่าย กระแสคลั่งมอเตอร์ไซค์แบบแข่งขันระบาดไปทั่ว
จากบรรดาชายชาตรีผู้รักความเร็ว และสิงห์นักบิดทั้งมือเก่าและพวกมือใหม่ที่ต้องการ
ให้ผู้คนมองดูรถ มอเตอร์ไซค์ของตนที่มีความสง่างามเหมือนกับรถแข่ง ซึ่งมีทั้งความ
สวยและความดุดันแอบแฝงอยู่
รุ่น R75
มอเตอร์ไซค์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการปฎิวัติรูปทรงคือรถรุ่น R75/5 ที่ บริษัทBMW
ผลิตขึ้นในต้นยุค70' โดยใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ปริมาตรความ จุ 750c.c.50 แรงม้า
ติดตั้งระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยสวิช์ทไฟฟ้า (หลังจากนั้น อุปกรณ์ชนิดนี้กลายเป็น
อุปกรณ์มาตรฐานในรถจักรยานยนต์ของBMWมาจนถึงทุกวัน นี้)
แหล่งข้อมูล